ถ้าใครเก่ง Eng ข้ามไปอ่านอันนี้ได้เลยนะ ข้อมูลแน่นกว่าเยอะ --> https://osu.ppy.sh/wiki/Beatmap_Editor
【BETA VERSION.】
ก่อนอื่นเลยก็ต้องเตรียม mp3 กันก่อนใช่ม้า ซึ่ง mp3 มันก็มีหลายบิทเรทนะ เช่น 320kbs , 192kbs , 128kbs ไล่ลำดับลงมา ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะบอกคุณของ mp3 ด้วย
ซึ่งตามกฎของการแรงค์แมพแล้ว mp3 ต้องมีคุณภาพไม่เกิน 192kbs จ้า คือใช้ mp3 192kbs ได้สูงสุด ส่วนต่ำสุด เป็น 128kbs ห้ามใช้ต่ำกว่านั้น
ส่วนวิธีการดูบิทเรทของ mp3 ก็ไปที่ mp3 ที่จะดู กดคลิกขวา เลือก Properties มันจะเด้งหน้าต่างขึ้นมา คลิก Details ตรงแถบเมนูข้างบนของหน้าต่างแล้วก็ตามรูปจ้า
*ข้อความต่อไปนี้สำคัญมากนะแจ๊ะ : หากนำ mp3 มาจาก beatmap อื่นๆ กรุณาไปขออณุญาติใช้ mp3 ของเขาก่อนด้วยนะครับ ฝึกให้เป็นนิสัยจะได้ไม่เกิดดราม่าอะไร :3 (ปกติจะให้เครดิตไว้ตรง creator word หน้าแมพบนเว็บครับ) อย่าลืมนะครับ ด้วยความหวังดี*
นอกจากนี้หลายๆ คนอาจจะประสบปัญหาเรื่องการเปลี่ยน mp3 ในแมพ เช่น เราทำแมพไว้แล้ว แต่ไปเจอ mp3 ที่คุณภาพดีกว่าแล้วอยากจะเปลี่ยน จะเปลี่ยนยังไง
บางคนอาจจะทำเป็นแต่ในบางวิธีมันยุ่งยากและอาจเกิดบั๊กได้ ดังนั้นมาดูวิธีของผมกันครับ
วิธีของผมนะ ไปที่หน้า edit เลือกเพลงที่จะเปลี่ยนแล้วเข้าไปในเพลง จากนั้นดูเมนูมุมบนซ้าย คลิก File แล้วไปที่ Open .osu in Notepad ครับมันจะเด้งหน้าต่างขึ้นมา เป็นตัวโค้ดของดิฟนั้นๆ กวาดสายตาดูที่หัวขอ General แล้วก็รายละเอียดบรรทัดแรกเลยครับ AudioFilename แล้วก็ตามด้วยชื่อ mp3 ที่เราตั้งไว้ ถ้าจะเปลี่ยนเป็น mp3 อันใหม่ก็แค่เปลี่ยนชื่อไฟล์ให้ตรงกับชื่อ mp3 อันใหม่ กด save แล้วออกแล้วเข้าใหม่ ตัวเกมก็จะรัน mp3 ให้ใหม่แล้วครับ ถ้าเปลี่ยน mp3 แล้ว timing ไม่ตรงก็ต้องปรับให้ตรงด้วยล่ะ :3
ในส่วนของ mp3 ก็ไม่มีรายละเอียดอื่นๆ แล้วแหละ
ถามว่า ทำไมผมถึงเริ่มที่ Song Setup เหรอ... แมพเปอร์ที่ทำแมพเป็นแล้วจะรู้ดีว่า หากคุณเอา mp3 มาวางในเกมส์เพื่อจะทำแมพ สิ่งแรกที่คุณจะเจอคือสิ่งนี้
ดังนั้นเราจะมาเริ่มจากสิ่งนี้กันครับ :3
เมื่อกด Song Setup เข้าไปแล้ว มันจะเด้งหน้าต่าง Setup ขึ้นมา ให้เราตั้งค่าอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวกับแมพ
Setup จะมีอยู่ทั้งหมด 6 หัวข้อครับ
[update : 23/06/2558]
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Timing มี 2 จุดนะครับ ตามภาพเลย จริงๆ แล้วส่วนที่สองอยู่ในเมนูสำรองอ่ะนะครับ เลยจะยังไม่ขออธิบายแล้วกัน
ส่วนที่ 1
- BPM : หลายคนอาจจะงงในส่วนนี้มากๆ เลยว่ามันคืออะไร BPM ย่อมาจาก beat per minite หรือแปลว่า จังหวะต่อนาทีนั่นเอง ตัวเริ่มต้นที่เกมให้เรามานั้นคือ 120 ซึ่งเพลงที่มี BPM 120 หมายความว่า ถ้าเราปรบมือตามจังหวะเพลงในเพลงนั้นอ่ะ 1 นาทีเราจะตบได้ 120 ครั้ง นั่นเอง ง่ายๆ ใช่มะ 555 ส่วนหลักการหาก็แล้วแต่แต่ละคนว่าจะหา BPM กันยังไง เพราะทำให้เป๊ะบ้าง แมพเปอร์มือโปรบางคนยังหาเบี้ยวเลย 555 ของแบบนี้ต้องฝึกครับ ซึ่งการที่ BPM จะตรงได้นั้นก็ขุ้นอยู่ว่า Offset ด้วยว่าจะตรงรึเปล่า ส่วนที่เขียนอยู่ข้างล่างว่า
BPM ไม่จำเป็นจะต้องมีเพียงเส้นเดียวนะครับ มีหลายเส้นได้สำหรับเพลงที่เป็น multi BPM หรือง่ายๆ ก็เพลงที่จังหวะไม่เสถียรนั่นแหละ เปลี่ยนจังหวะบ่อยๆ แต่อย่าสับสนนะครับ บางทีเพลงที่เปลี่ยนจังหวะอาจจะไม่ใช่เปลี่ยน BPM นะครับ อาจจะแค่เปลี่ยน Snap Diviser เป็นโน็ต 1/3 หรือ 1/6 เฉยๆ ให้ลองเปลี่ยนก่อนนะครับ ก่อนใส่เส้น BPM ใหม่
*ย้ำเตือน : BPM มีผลต่อการเคอริฟายด์มมากๆ ครับ เพราะงั้น ควรระมัดระวัง ทำให้ BPM ตรงก่อนทำแมพด้วย ไม่งั้นต้องแก้กันยาว 555*
- Offset : สิ่งนี้คือตัวกำหนดจุดเริ่มของเส้น BPM ครับ ว่าจะให้จังหวะเริ่มที่ตรงไหน ไม่จำเป็นต้องเริ่มตรงจะหวะทุกเพลงนะ เริ่มก่อนจังหวะได้ (มีประโยชน์ต่อการวาง Timing Section หรือเส้นเขียวนั้นแหละ) แต่ถ้าเริ่มก่อนจังหวะต้องทำให้จังหวะหลักตรงด้วยนะ ถามว่าจะจับจังหวะหลักยังไง ฟังกลองครับ กลองจะบอกแพทเทิร์นจังหวะเราทุกอย่างเลย ซึ่งสิ่งนี้ก็ต้องฝึกเหมือนกัน Offset มีผลต่อการทำให้ BPM เบี้ยว แล้วการใส่ hitsound พอเล่นจริงๆ แล้ว hitsound จะดังขึ้นช้า ทำให้เดาจังหวะต่อไปผิด 555 เพราะงั้นควรระวัง ส่วนที่มีให้เราติ๊กว่า
- Slider Velocity : แปลตรงตัวคือ อัตราเร็วสไลด์(?) แลดูเป็นฟิสิกส์ 555 สิ่งนี้ตัวปรับความเร็วสไลด์ครับ โดยห้ยึดอันนี้เป็น SV main โดยเปลี่ยน SV ให้เร็วขึ้นหรือช้าลงได้ใน Timing Setup Panel ครับ ก็ปรับใ้เหมาะสมกับความเร็วเพลงแล้วก็ระดับความยากของดิฟด้วยนะครับ สำหรับโหมด STD นะ ส่วนใหญ่จะเป็นประมาณนี้
- Slider Tick Rate : สิ่งนี้คืออะไร... สิ่งนี้คืออีจุดโง่ๆ ตามภาพครับ
จุดนี้นับคอมโบด้วยนะครับ ถ้าลากสไลด์ไม่ผ่านจุดนี้มันก็จะไม่นับคอมโบให้ แล้วก็ไม่ได้ SS ด้วยนะเออ
ถ้าเกิดอยู่ที่ 1 มันจะไปโผล่ในสไดล์ที่มีอัตราจังหวะน้อยกว่า 1/1 เป็นต้นไปครับครับ ถ้าปรับ 2 ก็จะโผล่ในสไดล์ที่มีอัตราจังหวะน้อยกว่า 1/2 เป็นต้นไปครับ
ถ้าปรับ 3 ก็จะโผล่ในสไดล์ที่มีอัตราจังหวะน้อยกว่า 1/3 เป็นต้นไปครับ ถ้าปรับ 4 ก็จะโผล่ในสไดล์ที่มีอัตราจังหวะน้อยกว่า 1/4 เป็นต้นไปครับ...
ถ้างง เดี๋ยวจะไปอธิบาย
[update : 30/09/2558]
ส่วนต่อมาคือ Timing Sanp Panel จริงๆ มันอยู่ในส่วนที่ 1 นั่นแหละ แต่มันแยกย่อยออกมาเยอะมากๆ ล้วก็สำคัญด้วย เลยต้องแยกหัวข้อ
เมื่อกดเปิดออกมา หน้าตาจะเป็นแบบนี้
โอเคจ้า มาถึงสัญญาที่จะทำ How to Mapping เราลงในนี้แหละ 555+
ขอบอกก่อนเลยนะครับว่า การทำแมพ ถ้าคิดจะทำจริงๆ จังๆ แต่ยังไม่เคยผ่านการเล่น osu มาก่อนเลย...
แนะนำให้ไปเล่นสักระยะให้เล่นคล่อง รู้จังหวะ รู้จัก space หรือพวกองค์ประกอบต่างๆ ที่จะมาเป็นโน็ต ไรงี้ ก่อนจะเริ่มค้นหาสไตล์การทำแมพของตัวเองครับ :3
อย่างแรกก็ต้องอธิบายความหมายก่อนว่า beatmap คืออะไร
beatmap ถ้าแปลตามภาษาเราๆ ก็
beat = ตัวโน๊ต
map = แผนที่ (ภาษาทางการ) , ด่าน (ภาษาเกมส์)
ดังนั้น beatmap ก็จะมีความหมายว่า ด่านของตัวโน๊ตที่สร้างมาเพื่อให้ใช้เล่นกันในเกมส์นั่นเองงง เย่ !!
มาเข้าเรื่อง การทำแมพกันเลยเนอะ!!
ขอบอกก่อนเลยนะครับว่า การทำแมพ ถ้าคิดจะทำจริงๆ จังๆ แต่ยังไม่เคยผ่านการเล่น osu มาก่อนเลย...
แนะนำให้ไปเล่นสักระยะให้เล่นคล่อง รู้จังหวะ รู้จัก space หรือพวกองค์ประกอบต่างๆ ที่จะมาเป็นโน็ต ไรงี้ ก่อนจะเริ่มค้นหาสไตล์การทำแมพของตัวเองครับ :3
อย่างแรกก็ต้องอธิบายความหมายก่อนว่า beatmap คืออะไร
beatmap ถ้าแปลตามภาษาเราๆ ก็
beat = ตัวโน๊ต
map = แผนที่ (ภาษาทางการ) , ด่าน (ภาษาเกมส์)
ดังนั้น beatmap ก็จะมีความหมายว่า ด่านของตัวโน๊ตที่สร้างมาเพื่อให้ใช้เล่นกันในเกมส์นั่นเองงง เย่ !!
มาเข้าเรื่อง การทำแมพกันเลยเนอะ!!
MP3
ก่อนอื่นเลยก็ต้องเตรียม mp3 กันก่อนใช่ม้า ซึ่ง mp3 มันก็มีหลายบิทเรทนะ เช่น 320kbs , 192kbs , 128kbs ไล่ลำดับลงมา ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะบอกคุณของ mp3 ด้วย
ซึ่งตามกฎของการแรงค์แมพแล้ว mp3 ต้องมีคุณภาพไม่เกิน 192kbs จ้า คือใช้ mp3 192kbs ได้สูงสุด ส่วนต่ำสุด เป็น 128kbs ห้ามใช้ต่ำกว่านั้น
ส่วนวิธีการดูบิทเรทของ mp3 ก็ไปที่ mp3 ที่จะดู กดคลิกขวา เลือก Properties มันจะเด้งหน้าต่างขึ้นมา คลิก Details ตรงแถบเมนูข้างบนของหน้าต่างแล้วก็ตามรูปจ้า
*ข้อความต่อไปนี้สำคัญมากนะแจ๊ะ : หากนำ mp3 มาจาก beatmap อื่นๆ กรุณาไปขออณุญาติใช้ mp3 ของเขาก่อนด้วยนะครับ ฝึกให้เป็นนิสัยจะได้ไม่เกิดดราม่าอะไร :3 (ปกติจะให้เครดิตไว้ตรง creator word หน้าแมพบนเว็บครับ) อย่าลืมนะครับ ด้วยความหวังดี*
นอกจากนี้หลายๆ คนอาจจะประสบปัญหาเรื่องการเปลี่ยน mp3 ในแมพ เช่น เราทำแมพไว้แล้ว แต่ไปเจอ mp3 ที่คุณภาพดีกว่าแล้วอยากจะเปลี่ยน จะเปลี่ยนยังไง
บางคนอาจจะทำเป็นแต่ในบางวิธีมันยุ่งยากและอาจเกิดบั๊กได้ ดังนั้นมาดูวิธีของผมกันครับ
วิธีของผมนะ ไปที่หน้า edit เลือกเพลงที่จะเปลี่ยนแล้วเข้าไปในเพลง จากนั้นดูเมนูมุมบนซ้าย คลิก File แล้วไปที่ Open .osu in Notepad ครับมันจะเด้งหน้าต่างขึ้นมา เป็นตัวโค้ดของดิฟนั้นๆ กวาดสายตาดูที่หัวขอ General แล้วก็รายละเอียดบรรทัดแรกเลยครับ AudioFilename แล้วก็ตามด้วยชื่อ mp3 ที่เราตั้งไว้ ถ้าจะเปลี่ยนเป็น mp3 อันใหม่ก็แค่เปลี่ยนชื่อไฟล์ให้ตรงกับชื่อ mp3 อันใหม่ กด save แล้วออกแล้วเข้าใหม่ ตัวเกมก็จะรัน mp3 ให้ใหม่แล้วครับ ถ้าเปลี่ยน mp3 แล้ว timing ไม่ตรงก็ต้องปรับให้ตรงด้วยล่ะ :3
ในส่วนของ mp3 ก็ไม่มีรายละเอียดอื่นๆ แล้วแหละ
Setup
ถามว่า ทำไมผมถึงเริ่มที่ Song Setup เหรอ... แมพเปอร์ที่ทำแมพเป็นแล้วจะรู้ดีว่า หากคุณเอา mp3 มาวางในเกมส์เพื่อจะทำแมพ สิ่งแรกที่คุณจะเจอคือสิ่งนี้
ดังนั้นเราจะมาเริ่มจากสิ่งนี้กันครับ :3
เมื่อกด Song Setup เข้าไปแล้ว มันจะเด้งหน้าต่าง Setup ขึ้นมา ให้เราตั้งค่าอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวกับแมพ
Setup จะมีอยู่ทั้งหมด 6 หัวข้อครับ
General
General : ส่วนนี้เป็นส่วนของข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับแมพครับ ในนี้จะมี
- Romanised Artist : เป็นชื่อศิลปินในภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษครับ เช่นเอาเพลงยุ่นมาทำ แล้วคนร้องมีชื่อยุ่นก็เอาชื่อภาษายุ่นมาแปะในช่องนี้
ช่องนี้เวลาแรงค์จะไม่บังคับนะครับ จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ถ้ามีก็ควรจะใส่นะ ให้ข้อมูลมันครบๆ
- Artist - : เป็นชื่อศิลปินที่เป็นภาษาอังกฤษ
- Romanised Title : ทำนองเดียวกับอันแรก คือเป็นชื่อเพลงภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เวลาแรงค์ก็ไม่บังคับเช่นกัน มีก็ได้ไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีก็ควรใส่
- Title : เป็นชื่อเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษ
- Beatmap Creator : เป็น Username ของคนที่ทำแมพที่เรากำลังดูอยู่
*Tips : ตัวนี้จะเปลี่ยนได้แค่ครั้งเดียวนะในกรณีที่ก่อนเปลี่ยนไม่ใช่ Username ของตัวเอง ถ้าเปลี่ยนแล้วใส่ Username ของตัวเองลงไปก็จะไม่สามารถเปลี่ยนได้อีกครั้ง เพื่อป้องกันการแอบอ้าง ใส่ร้าย โทษ หรือการทำแมพแทนกันและปลอมแปลงแมพทั้งหลาย ในกรณีที่เป็นชื่อ Username ของตัวเองอยู่แล้วก็จะไม่สามารถทำการแก้ไขใดๆ ได้จ้า (บอกแล้วอย่าเอาไปใช้ผิดๆ กันล่ะ บ้าจริง)*
- Difficulty : เป็นระดับความยากครับผม สิ่งนี้เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ เพราะเคยเกิดวิกฤตการณ์เปลี่ยนกฎการตั้งชื่อแล้วแมพโดน unrank เป็นแถบมาแล้วจ้า
ชื่อระดับความยากเนี่ย... จริงๆ ก็ไม่ค่อยรู้หรอกนะครับ รู้แต่ ของ STD กับ Taiko อ่ะ
STD - จะมี Easy , Normal , Hard , Insane , Extra ใช่มะ ที่เราเห็นๆ กันบ่อยๆ
Taiko - ก็จะเป็น Kantan (Taiko Easy) , Futsuu (Taiko Normal) , Muzukashii (Taiko Hard) , Oni (Taiko Insane) แล้วก็ Inner Oni (Taiko Extra) ตามนี้เลย
ส่วนชื่อประเภทแบบ Beginner , Advance , Standard , Hyper , Extreme , Another อะไรเทือกๆ เนี้ย เป็นชื่อที่นอกหนือจาก option หลักที่มีให้เลือกครับ
ส่วนชื่อดิฟในกรณีที่มีคนมาทำ GD ให้ ชื่อก็เป็นชื่อที่บ่งบอกตัวตนของ User ที่มาทำให้ (ไม่จำเป็นต้องใส่เต็มชื่อนะ ออกแบบเอาเองอย่างชื่อผม KantoKu ผมจะเคยใช้ 2 แบบคือ Kanto's กัย KK's) แล้วก็ตามด้วย 's เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของตาม Gramma และจบด้วยชื่อดิฟเช่น Kanto's Insane ไรงี้
- Source : แปลตรงตรงๆ ตัวนี้คือที่มา พูดง่ายๆ ก็มันเป็นเพลงที่มาจากอะไรอ่ะ เป็นเพลงประกอบหนังก็ใส่ชื่อหนังลงไป ประกอบเกมส์ก็ใส่ชื่อเกมส์ลงไป แค่นั้นเอง :3
อันนี้จะใส่ชื่อภาษาอะไรก็ได้นะ (ที่เป็นภาษาหลักนะ อย่างมาจากเมะยุ่นก็ใส่ชื่อยุ่นนะ ไม่ใช่เป็นเมะยุ่นแต่มีชื่อไทยก็เอาชื่อไทยไปใส่ แรงค์ไม่ได้นะจ๊ะ)
- Tag : เป็นรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเพลงนี้ครับ เช่นเป็นเพลงเปิดหรือปิด หรือ character song แมพนี้มีใครทำทำบ้าง หรือแม้แต่ชื่อเก่าของตัวเองในเกมก็ใส่ลงไปได้
*Tips : เวลาที่อัพลงแมพลงเว็บแล้วอ่ะ ถ้ากดค้นหาคำที่มีอยู่ใน Tag มันก็จะค้นหาเจอเหมือนกันนะ*
*Metadata หรือ General (มันคือสิ่งเดียวกัน) สำคัญมากนะครับ เพราะ osu ให้ความสำคัญกับลิขสิทข์ของเพลงมากๆ ดังนั้นใส่ข้อมูลของเพลงๆ นั้นให้ถูกกันด้วย ไม่งั้นแมพจะโดน unrank อย่างงายดาย :3 โดยเฉพาะ romanised artist หรือ title รวมไปถึง source เสี่ยงมากต่อการ unrank เพราะงั้นข้อมูลควรมากจาก Official เท่านั้น ไม่ควรเอาตามแหล่งเถื่อนหรือชื่อคลิปในยูทูปเด็ดขาด*
แมพที่ข้อมูลสมบูรณ์แบบสุดๆ หาดูได้ตามแมพที่แรงค์ปัจจุบันครับผม เพราะข้อมูลมันจะเป๊ะสุดๆ ไม่เป๊ะโดน QAT unrank ชัวร์ 555
- Romanised Artist : เป็นชื่อศิลปินในภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษครับ เช่นเอาเพลงยุ่นมาทำ แล้วคนร้องมีชื่อยุ่นก็เอาชื่อภาษายุ่นมาแปะในช่องนี้
ช่องนี้เวลาแรงค์จะไม่บังคับนะครับ จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ถ้ามีก็ควรจะใส่นะ ให้ข้อมูลมันครบๆ
- Artist - : เป็นชื่อศิลปินที่เป็นภาษาอังกฤษ
- Romanised Title : ทำนองเดียวกับอันแรก คือเป็นชื่อเพลงภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เวลาแรงค์ก็ไม่บังคับเช่นกัน มีก็ได้ไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีก็ควรใส่
- Title : เป็นชื่อเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษ
- Beatmap Creator : เป็น Username ของคนที่ทำแมพที่เรากำลังดูอยู่
*Tips : ตัวนี้จะเปลี่ยนได้แค่ครั้งเดียวนะในกรณีที่ก่อนเปลี่ยนไม่ใช่ Username ของตัวเอง ถ้าเปลี่ยนแล้วใส่ Username ของตัวเองลงไปก็จะไม่สามารถเปลี่ยนได้อีกครั้ง เพื่อป้องกันการแอบอ้าง ใส่ร้าย โทษ หรือการทำแมพแทนกันและปลอมแปลงแมพทั้งหลาย ในกรณีที่เป็นชื่อ Username ของตัวเองอยู่แล้วก็จะไม่สามารถทำการแก้ไขใดๆ ได้จ้า (บอกแล้วอย่าเอาไปใช้ผิดๆ กันล่ะ บ้าจริง)*
- Difficulty : เป็นระดับความยากครับผม สิ่งนี้เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ เพราะเคยเกิดวิกฤตการณ์เปลี่ยนกฎการตั้งชื่อแล้วแมพโดน unrank เป็นแถบมาแล้วจ้า
ชื่อระดับความยากเนี่ย... จริงๆ ก็ไม่ค่อยรู้หรอกนะครับ รู้แต่ ของ STD กับ Taiko อ่ะ
STD - จะมี Easy , Normal , Hard , Insane , Extra ใช่มะ ที่เราเห็นๆ กันบ่อยๆ
Taiko - ก็จะเป็น Kantan (Taiko Easy) , Futsuu (Taiko Normal) , Muzukashii (Taiko Hard) , Oni (Taiko Insane) แล้วก็ Inner Oni (Taiko Extra) ตามนี้เลย
ส่วนชื่อประเภทแบบ Beginner , Advance , Standard , Hyper , Extreme , Another อะไรเทือกๆ เนี้ย เป็นชื่อที่นอกหนือจาก option หลักที่มีให้เลือกครับ
ส่วนชื่อดิฟในกรณีที่มีคนมาทำ GD ให้ ชื่อก็เป็นชื่อที่บ่งบอกตัวตนของ User ที่มาทำให้ (ไม่จำเป็นต้องใส่เต็มชื่อนะ ออกแบบเอาเองอย่างชื่อผม KantoKu ผมจะเคยใช้ 2 แบบคือ Kanto's กัย KK's) แล้วก็ตามด้วย 's เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของตาม Gramma และจบด้วยชื่อดิฟเช่น Kanto's Insane ไรงี้
- Source : แปลตรงตรงๆ ตัวนี้คือที่มา พูดง่ายๆ ก็มันเป็นเพลงที่มาจากอะไรอ่ะ เป็นเพลงประกอบหนังก็ใส่ชื่อหนังลงไป ประกอบเกมส์ก็ใส่ชื่อเกมส์ลงไป แค่นั้นเอง :3
อันนี้จะใส่ชื่อภาษาอะไรก็ได้นะ (ที่เป็นภาษาหลักนะ อย่างมาจากเมะยุ่นก็ใส่ชื่อยุ่นนะ ไม่ใช่เป็นเมะยุ่นแต่มีชื่อไทยก็เอาชื่อไทยไปใส่ แรงค์ไม่ได้นะจ๊ะ)
- Tag : เป็นรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเพลงนี้ครับ เช่นเป็นเพลงเปิดหรือปิด หรือ character song แมพนี้มีใครทำทำบ้าง หรือแม้แต่ชื่อเก่าของตัวเองในเกมก็ใส่ลงไปได้
*Tips : เวลาที่อัพลงแมพลงเว็บแล้วอ่ะ ถ้ากดค้นหาคำที่มีอยู่ใน Tag มันก็จะค้นหาเจอเหมือนกันนะ*
*Metadata หรือ General (มันคือสิ่งเดียวกัน) สำคัญมากนะครับ เพราะ osu ให้ความสำคัญกับลิขสิทข์ของเพลงมากๆ ดังนั้นใส่ข้อมูลของเพลงๆ นั้นให้ถูกกันด้วย ไม่งั้นแมพจะโดน unrank อย่างงายดาย :3 โดยเฉพาะ romanised artist หรือ title รวมไปถึง source เสี่ยงมากต่อการ unrank เพราะงั้นข้อมูลควรมากจาก Official เท่านั้น ไม่ควรเอาตามแหล่งเถื่อนหรือชื่อคลิปในยูทูปเด็ดขาด*
แมพที่ข้อมูลสมบูรณ์แบบสุดๆ หาดูได้ตามแมพที่แรงค์ปัจจุบันครับผม เพราะข้อมูลมันจะเป๊ะสุดๆ ไม่เป๊ะโดน QAT unrank ชัวร์ 555
Difficulty
Difficulty : ในส่วนนี้เป็นส่วนของสเตตัสต่างๆ การปรับค่าพื้นฐานของดิฟ
- HP Drain Rate (HP) : ตัวนี้เป็นหลอดชีวิตครับ ถ้าปรับตัวนี้น้อยเวลากดผิดเลือดก็จะลดลงน้อย แต่ถ้าปรับมากเลือดก็จะลดลงแบบฮวบเลย
เรทส่วนใหญ่ของ STD นะ ---> Easy : 2-3 , Normal : 4 , Hard : 5-6 , Insane : 6-8 , Extra - unlimited
- Circle Size (CS) : ตัวนี้เป็นขนาดของตัวโน็ตและสไลด์่ะ แปลตรงตัวเลย ถ้าปรับน้อย รัศมีของวงกลมที่เป็นโน๊ตจะยาว ทำให้วงโน๊ตใหญ่ ถ้าปรับมากโน๊ตก็จะเล็กนั่นเอง
เรทส่วนใหญ่ของ STD ---> Easy : 3 , Normal : 3-4 , Hard : 4 , Insane : 4-5 , Extra - 3-6
- Approach Rate (AR) : อันนี้ต้องให้ทุกคนไปสังเกตุก่อนว่า เวลาที่เราจะกดโน๊ตเนี่ยมันจะมีเส้นรอบวงเส้นนึงที่ครอบโน๊ตลงมาเรื่อยๆ ที่ใกล้จะถึงจังหวะของโน๊ตตัวนั้น ตามภาพ
ถ้าปรับตัวนี้น้อยโน็ตก็จะโผล่ขึ้นมาเร็วทำให้มองง่ายว่าโน็ตต่อไปจะมาทางไหน ถ้าปรับมากโน็ตจะแว๊บไปมาๆ โผล่ขึ้นมาช้า อ่านทางยากว่าโน็ตมันจะโผล่ไปในทางไหน
เรทส่วนใหญ่ของ STD ---> Easy : 3-4 , Normal : 4-5 (6 ก็ได้นะ แต่ก็จะโหดไปหน่อยสำหรับมือใหม่) , Hard : 7-8 , Insane : 8-9 , Extra - 9-9.5
- Overall Difficulty (OD) : อันนี้เป็นความยากง่ายของการขึ้นคะแนนตอนหมุนสปิน ถ้าปรับน้อยคะแนนจะขึ้นง่าย ถ้าปรับเยอะคะแนนจะขึ้นยาก
นอกจากนี้ยังมีผลต่อ max score ด้วยนะ บางแมพปรับ OD-7 max score จะอยู่ประมาณ 40 ล้าน ถ้าปรับ OD-7.8 max score มีสิทธ์ขึ้น 50 ล้านเลยนะ
แล้ว OD ยังมีผลอีกอย่างนึงคือทำให้กดติด 300 ยากขึ้นครับ :3 บางทีเรากดจังหวะบอดไปบ้างถ้าปรับน้อย จะหยวนให้ 300 ได้แต่ถ้า OD สูงจะลงไปไป 100-50 เลยแหละ
เรทส่วนใหญ่ของ STD ---> อันนี้ก็ไม่รู้นะ ส่วนใหญ่ทำตามคำแนะของมอดเดอร์ซะหมด = =;;
บอกก่อน ในส่วนของ OD ผมก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในภูมิรู้ตัวเองเท่าไหร่ ยังไงลองถามคนที่ฐานความรู้แน่นกว่าผมอย่าง P A N หรือ Frostmourne ดูนะครับ
CR : ขอบคุณข้อมูลจาก P A N นะคร้าบบบ
*Tips : บางคนอาจจะสงสัยว่ามันก็ปรับได้แค่ตัวเลขธรรมดา มันปรับแบบให้เป็นทศนิยมยังไง? ง่ายๆ ครับ ก็แค่กด control ค้างไว้แล้วก็ปรับ มันก็จะเป็นทศนิยมให้เวลาปรับแล้วครับ :3*
แล้วก็หลายๆ คนอาจจะสงสัยใช่มะ ว่าดาวของแมพมันมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เยอะน้อยบ้างก็จะบอกว่า ส่วนมากมันขึ้นอยู่กับระยะห่างของโน็ต (DS) ในแมพแล้วก็ Circle Size นี่แหละครับ CS มีผลมากเลยนะ ลด CS ไป 0.5 ดาวอาจลดฮวบลงไปเลย ปรับค่าต่างๆ ก็ระวังๆ แล้วก็ให้มันเหมาะสมกับดิฟที่จะทำด้วยนะครับ
- HP Drain Rate (HP) : ตัวนี้เป็นหลอดชีวิตครับ ถ้าปรับตัวนี้น้อยเวลากดผิดเลือดก็จะลดลงน้อย แต่ถ้าปรับมากเลือดก็จะลดลงแบบฮวบเลย
เรทส่วนใหญ่ของ STD นะ ---> Easy : 2-3 , Normal : 4 , Hard : 5-6 , Insane : 6-8 , Extra - unlimited
- Circle Size (CS) : ตัวนี้เป็นขนาดของตัวโน็ตและสไลด์่ะ แปลตรงตัวเลย ถ้าปรับน้อย รัศมีของวงกลมที่เป็นโน๊ตจะยาว ทำให้วงโน๊ตใหญ่ ถ้าปรับมากโน๊ตก็จะเล็กนั่นเอง
เรทส่วนใหญ่ของ STD ---> Easy : 3 , Normal : 3-4 , Hard : 4 , Insane : 4-5 , Extra - 3-6
- Approach Rate (AR) : อันนี้ต้องให้ทุกคนไปสังเกตุก่อนว่า เวลาที่เราจะกดโน๊ตเนี่ยมันจะมีเส้นรอบวงเส้นนึงที่ครอบโน๊ตลงมาเรื่อยๆ ที่ใกล้จะถึงจังหวะของโน๊ตตัวนั้น ตามภาพ
ถ้าปรับตัวนี้น้อยโน็ตก็จะโผล่ขึ้นมาเร็วทำให้มองง่ายว่าโน็ตต่อไปจะมาทางไหน ถ้าปรับมากโน็ตจะแว๊บไปมาๆ โผล่ขึ้นมาช้า อ่านทางยากว่าโน็ตมันจะโผล่ไปในทางไหน
เรทส่วนใหญ่ของ STD ---> Easy : 3-4 , Normal : 4-5 (6 ก็ได้นะ แต่ก็จะโหดไปหน่อยสำหรับมือใหม่) , Hard : 7-8 , Insane : 8-9 , Extra - 9-9.5
- Overall Difficulty (OD) : อันนี้เป็นความยากง่ายของการขึ้นคะแนนตอนหมุนสปิน ถ้าปรับน้อยคะแนนจะขึ้นง่าย ถ้าปรับเยอะคะแนนจะขึ้นยาก
นอกจากนี้ยังมีผลต่อ max score ด้วยนะ บางแมพปรับ OD-7 max score จะอยู่ประมาณ 40 ล้าน ถ้าปรับ OD-7.8 max score มีสิทธ์ขึ้น 50 ล้านเลยนะ
แล้ว OD ยังมีผลอีกอย่างนึงคือทำให้กดติด 300 ยากขึ้นครับ :3 บางทีเรากดจังหวะบอดไปบ้างถ้าปรับน้อย จะหยวนให้ 300 ได้แต่ถ้า OD สูงจะลงไปไป 100-50 เลยแหละ
เรทส่วนใหญ่ของ STD ---> อันนี้ก็ไม่รู้นะ ส่วนใหญ่ทำตามคำแนะของมอดเดอร์ซะหมด = =;;
บอกก่อน ในส่วนของ OD ผมก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในภูมิรู้ตัวเองเท่าไหร่ ยังไงลองถามคนที่ฐานความรู้แน่นกว่าผมอย่าง P A N หรือ Frostmourne ดูนะครับ
CR : ขอบคุณข้อมูลจาก P A N นะคร้าบบบ
*Tips : บางคนอาจจะสงสัยว่ามันก็ปรับได้แค่ตัวเลขธรรมดา มันปรับแบบให้เป็นทศนิยมยังไง? ง่ายๆ ครับ ก็แค่กด control ค้างไว้แล้วก็ปรับ มันก็จะเป็นทศนิยมให้เวลาปรับแล้วครับ :3*
แล้วก็หลายๆ คนอาจจะสงสัยใช่มะ ว่าดาวของแมพมันมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เยอะน้อยบ้างก็จะบอกว่า ส่วนมากมันขึ้นอยู่กับระยะห่างของโน็ต (DS) ในแมพแล้วก็ Circle Size นี่แหละครับ CS มีผลมากเลยนะ ลด CS ไป 0.5 ดาวอาจลดฮวบลงไปเลย ปรับค่าต่างๆ ก็ระวังๆ แล้วก็ให้มันเหมาะสมกับดิฟที่จะทำด้วยนะครับ
Audio
Audio : เป็นส่วนที่เอาไว้เช็ค Hitsound ในแมพครับ ไม่มีอะไรมาก ไม่ค่อยได้ใช้อะไร ไม่ต้องไปสนใจมัน ข้ามไป
Colours
Colours* (เกล็ดความรู้เสริม คำว่า "สี" ในภาษาอังกฤษของ US กับ UK เขียนไม่เหมือนกันนะครับ ถ้าเป็น Color = UK ถ้าเป็น Colour = US) : ตัวนี้ไว้ปรับสีโน็ตในแมพครับ อันนี้ไม่มีไรมาก แค่เลือกสีให้เข้ากับภาพ BG ก็ผ่านแล้ว (ให้เข้ากับ BG นะ ไม่ใช่ Video เพราะเคยมาแล้วเหมือนกัน ทำสีให้เข้ากับ Video โดนลดสี ให้เหลือแค่เข้ากับ BG ก็พอ เพราะบางคนเล่นไม่เปิด Video ให้เข้ากับ BG ซะส่วนใหญ่) *ดูความเหมาะสด้วยนะครับ บางทีสีมันกลืนกับ BG ไปก็ไม่ดีนะ โดนให้แก้เหมือนกันเพราะคนเล่นมองโน็ตไม่ออกว่าเป็น BG SB หรือโน็ต ดังนั้นเลือกระวังๆ หน่อย* ตามเกณฑ์แล้วก็ 2 สีขึ้นไปครับ เฉดสีต้องต่างกันด้วยเพื่อให้อ่านง่าย ห้ามใช้สีซ้ำด้วยครับ :v แมพส่วนใหญ่ใช้ 4 ไม่ก็ 8 สีครับเพราะเพลงปกติในหนึ่งท่อนจะมี 4 ห้องพอดี (ห้องดนตรีอ่ะนะ) สีคอมโบมันจะกลับมาเป็นสีเดิมเมื่อเริ่มท่อนใหม่พอดี เลยนิยมใช้กัน
Design
Design : ตัวนี้ก็เป็นตัวตั้งค่าแบบไม่ค่อยมีอะไรสำคัญเท่าไหร่แต่ก็ส่งผลต่อการแรงค์เหมือนกัน
- Enable Countdown : อาจจะมีคนเคยเห็นแมพที่มีการนับถอยหลัง 3 2 1 ก่อนที่จะเริ่มตัวโน็ตแรกใช่มั้ย ถ้าติ๊กช่องนี้ก็จะมีตัวนับถอยหลังโผล่มา
- Widescreen Support : ตัวนี้ช่วยในการปรับ BG แล้วก็ SB ให้เข้ากับ Widescreen (หน้าจอที่อยู่ในเกณฑ์ 720p ---> 1280 x 720)
- Displayed SB in front of combo fire : ตามชื่อเลยครับ ทำให้ SB ไม่โดนไฟเหลืองเวลาคอมโบเยอะๆ บัง หรือทำให้ SB มาอยู่ข้างหน้าไฟเหลืองๆ นั่นเอง
- Displayed epilepsy warning (SB has quick strobing) : ตัวนี้ถ้าติ๊กจะมีเครื่องหมายขึ้นเตือนในแมพตอนเล่นว่า SB มีแสงวูบวาบมาก
ที่ต้องขึ้นเตือนเพราะมันมีผลกระทบต่อการเล่น เช่น ทำคอมโบหลุดเพราะแสงวูบวาบไปจนมองโน็ตยาก ไรงี้
- Letterbox During Break : ตัวนี้ถ้าติ๊กนะ เวลาถึงช่วงเบรคจะมีแถบดำๆ ตรงบนล่างของแมพอ่ะ ที่บ่งบอกว่าตอนนี้เบรคอยู่ไรงี้
CR : ขอบคุณข้อมูลจาก - N a n a k a - และ P A N นะคร้าบบบ
- Enable Countdown : อาจจะมีคนเคยเห็นแมพที่มีการนับถอยหลัง 3 2 1 ก่อนที่จะเริ่มตัวโน็ตแรกใช่มั้ย ถ้าติ๊กช่องนี้ก็จะมีตัวนับถอยหลังโผล่มา
- Widescreen Support : ตัวนี้ช่วยในการปรับ BG แล้วก็ SB ให้เข้ากับ Widescreen (หน้าจอที่อยู่ในเกณฑ์ 720p ---> 1280 x 720)
- Displayed SB in front of combo fire : ตามชื่อเลยครับ ทำให้ SB ไม่โดนไฟเหลืองเวลาคอมโบเยอะๆ บัง หรือทำให้ SB มาอยู่ข้างหน้าไฟเหลืองๆ นั่นเอง
- Displayed epilepsy warning (SB has quick strobing) : ตัวนี้ถ้าติ๊กจะมีเครื่องหมายขึ้นเตือนในแมพตอนเล่นว่า SB มีแสงวูบวาบมาก
ที่ต้องขึ้นเตือนเพราะมันมีผลกระทบต่อการเล่น เช่น ทำคอมโบหลุดเพราะแสงวูบวาบไปจนมองโน็ตยาก ไรงี้
- Letterbox During Break : ตัวนี้ถ้าติ๊กนะ เวลาถึงช่วงเบรคจะมีแถบดำๆ ตรงบนล่างของแมพอ่ะ ที่บ่งบอกว่าตอนนี้เบรคอยู่ไรงี้
CR : ขอบคุณข้อมูลจาก - N a n a k a - และ P A N นะคร้าบบบ
Advance
Advance : เป็นตัวปรับค่าขั้นสูง ในส่วนนี้ก็เอาไว้ปรับโหมดแล้วก็การ Stack โน็ตแค่นั้นแหละ
Stack Leniecy : เป็นตัวควบคุมโน็ต *Stack (Stack คือ ซ้อน) มันจะมีสองฝั่งใช่มะ
ยิ่งเลื่อนไปหา rarely มากเท่าไหร่ โน็ตจะซ้อนกันเนียนมาก บางทีเห็น รัว Triples เป็นโน็ตเดียวเลย
ค่านี้ปรับใน Notepad ได้นะ โดน Unrank ง่ายๆ เลยถ้าปรับไม่ดี เพราะงั้นปรับให้สูงๆ ไว้ดีที่สุด :3
Edit : Stack ห้าม เป็น 0 ครับ , Unrankable
CR : ขอบคุณข้อมูลจาก P A N นะคร้าบบบ
Stack Leniecy : เป็นตัวควบคุมโน็ต *Stack (Stack คือ ซ้อน) มันจะมีสองฝั่งใช่มะ
ยิ่งเลื่อนไปหา rarely มากเท่าไหร่ โน็ตจะซ้อนกันเนียนมาก บางทีเห็น รัว Triples เป็นโน็ตเดียวเลย
ค่านี้ปรับใน Notepad ได้นะ โดน Unrank ง่ายๆ เลยถ้าปรับไม่ดี เพราะงั้นปรับให้สูงๆ ไว้ดีที่สุด :3
Edit : Stack ห้าม เป็น 0 ครับ , Unrankable
CR : ขอบคุณข้อมูลจาก P A N นะคร้าบบบ
[update : 23/06/2558]
Timing
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Timing มี 2 จุดนะครับ ตามภาพเลย จริงๆ แล้วส่วนที่สองอยู่ในเมนูสำรองอ่ะนะครับ เลยจะยังไม่ขออธิบายแล้วกัน
ส่วนที่ 1
- BPM : หลายคนอาจจะงงในส่วนนี้มากๆ เลยว่ามันคืออะไร BPM ย่อมาจาก beat per minite หรือแปลว่า จังหวะต่อนาทีนั่นเอง ตัวเริ่มต้นที่เกมให้เรามานั้นคือ 120 ซึ่งเพลงที่มี BPM 120 หมายความว่า ถ้าเราปรบมือตามจังหวะเพลงในเพลงนั้นอ่ะ 1 นาทีเราจะตบได้ 120 ครั้ง นั่นเอง ง่ายๆ ใช่มะ 555 ส่วนหลักการหาก็แล้วแต่แต่ละคนว่าจะหา BPM กันยังไง เพราะทำให้เป๊ะบ้าง แมพเปอร์มือโปรบางคนยังหาเบี้ยวเลย 555 ของแบบนี้ต้องฝึกครับ ซึ่งการที่ BPM จะตรงได้นั้นก็ขุ้นอยู่ว่า Offset ด้วยว่าจะตรงรึเปล่า ส่วนที่เขียนอยู่ข้างล่างว่า
Note:you should resnap all notes from the timing menu after changing the BPM.สิ่งนี้กำลังย้ำเตือนเราว่า หากคุณได้เปลี่ยน BPM คุณครทำการเลื่อนโน็ตทุกตัวที่เมนู timing ด้านบนด้วย ซึ่งเดี๋ยวจะสอนในข้อถัดๆ ไปครับ
BPM ไม่จำเป็นจะต้องมีเพียงเส้นเดียวนะครับ มีหลายเส้นได้สำหรับเพลงที่เป็น multi BPM หรือง่ายๆ ก็เพลงที่จังหวะไม่เสถียรนั่นแหละ เปลี่ยนจังหวะบ่อยๆ แต่อย่าสับสนนะครับ บางทีเพลงที่เปลี่ยนจังหวะอาจจะไม่ใช่เปลี่ยน BPM นะครับ อาจจะแค่เปลี่ยน Snap Diviser เป็นโน็ต 1/3 หรือ 1/6 เฉยๆ ให้ลองเปลี่ยนก่อนนะครับ ก่อนใส่เส้น BPM ใหม่
*ย้ำเตือน : BPM มีผลต่อการเคอริฟายด์มมากๆ ครับ เพราะงั้น ควรระมัดระวัง ทำให้ BPM ตรงก่อนทำแมพด้วย ไม่งั้นต้องแก้กันยาว 555*
- Offset : สิ่งนี้คือตัวกำหนดจุดเริ่มของเส้น BPM ครับ ว่าจะให้จังหวะเริ่มที่ตรงไหน ไม่จำเป็นต้องเริ่มตรงจะหวะทุกเพลงนะ เริ่มก่อนจังหวะได้ (มีประโยชน์ต่อการวาง Timing Section หรือเส้นเขียวนั้นแหละ) แต่ถ้าเริ่มก่อนจังหวะต้องทำให้จังหวะหลักตรงด้วยนะ ถามว่าจะจับจังหวะหลักยังไง ฟังกลองครับ กลองจะบอกแพทเทิร์นจังหวะเราทุกอย่างเลย ซึ่งสิ่งนี้ก็ต้องฝึกเหมือนกัน Offset มีผลต่อการทำให้ BPM เบี้ยว แล้วการใส่ hitsound พอเล่นจริงๆ แล้ว hitsound จะดังขึ้นช้า ทำให้เดาจังหวะต่อไปผิด 555 เพราะงั้นควรระวัง ส่วนที่มีให้เราติ๊กว่า
Move already placed notes when changing BPM/Offsetถ้าเราติ๊กตัวคือมันจะเลื่อนโน็ตทุกตัวให้ตรงกับจังหวะเมื่อเราเปลี่ยน BPM หรือ Offset แต่ถ้าให้ชัวร์นั่งปรับเองดีกว่าครับ
- Slider Velocity : แปลตรงตัวคือ อัตราเร็วสไลด์(?) แลดูเป็นฟิสิกส์ 555 สิ่งนี้ตัวปรับความเร็วสไลด์ครับ โดยห้ยึดอันนี้เป็น SV main โดยเปลี่ยน SV ให้เร็วขึ้นหรือช้าลงได้ใน Timing Setup Panel ครับ ก็ปรับใ้เหมาะสมกับความเร็วเพลงแล้วก็ระดับความยากของดิฟด้วยนะครับ สำหรับโหมด STD นะ ส่วนใหญ่จะเป็นประมาณนี้
Easy : 0.8 ~ 1.0ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งนี้มีผลต่อการแรงค์ (มีทุกอย่าเงเลยมั้ง 555) ถ้าปรับไม่เหมาะสมก็ แมพปลิ้วจ้า ให้เข้ากับเพลงอ่ะนะ
Normal : 1.0 ~ 1.2 (สำหรับ CS:2) , 1.0 ~ 1.4
Hard : 1.3 ~ 1.6
Insane : 1.5 ~ 1.8
Extra : 1.3 ~ maxiaum
- Slider Tick Rate : สิ่งนี้คืออะไร... สิ่งนี้คืออีจุดโง่ๆ ตามภาพครับ
จุดนี้นับคอมโบด้วยนะครับ ถ้าลากสไลด์ไม่ผ่านจุดนี้มันก็จะไม่นับคอมโบให้ แล้วก็ไม่ได้ SS ด้วยนะเออ
ถ้าเกิดอยู่ที่ 1 มันจะไปโผล่ในสไดล์ที่มีอัตราจังหวะน้อยกว่า 1/1 เป็นต้นไปครับครับ ถ้าปรับ 2 ก็จะโผล่ในสไดล์ที่มีอัตราจังหวะน้อยกว่า 1/2 เป็นต้นไปครับ
ถ้าปรับ 3 ก็จะโผล่ในสไดล์ที่มีอัตราจังหวะน้อยกว่า 1/3 เป็นต้นไปครับ ถ้าปรับ 4 ก็จะโผล่ในสไดล์ที่มีอัตราจังหวะน้อยกว่า 1/4 เป็นต้นไปครับ...
ถ้างง เดี๋ยวจะไปอธิบาย
[update : 30/09/2558]
ส่วนต่อมาคือ Timing Sanp Panel จริงๆ มันอยู่ในส่วนที่ 1 นั่นแหละ แต่มันแยกย่อยออกมาเยอะมากๆ ล้วก็สำคัญด้วย เลยต้องแยกหัวข้อ
เมื่อกดเปิดออกมา หน้าตาจะเป็นแบบนี้
)